top of page

พันธ์ุไม้ในหมู่บ้าน
ชื่อต้นไม้
ลักษณะ
1.ต้นล่ำซำ ต้นหูหนู หรือ ต้นสั่งทำ
ชื่อภาษาอังกฤษ: Black Ebony
ชื่อวิทยาศาสตร์: Diospyros buxifolia (Blume) Hiern
จัดอยู่ในวงศ์ Ebenaceae มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ และนิวกินี หรือประเทศในแถบป่าร้อนชื้น
ลักษณะของต้นล่ำซำ เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ ลำต้นสีเทาดำ มีเปลือกแตกเป็นร่อง บางต้นสูงได้ถึง 35 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวรูปไข่ ปลายใบมน
มีดอกสีขาวครีมและออกดอกแยกเพศต่างต้นกัน
ถ้าเป็นดอกเพศผู้จะเป็นช่อเล็กตามซอกใบ ถ้าเป็นดอกเพศเมียจะเป็นดอกเดี่ยวตามง่ามใบและมีขนาดใหญ่กว่าดอกเพศผู้ จะออกดอกมากโดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ผลเป็นรูปกลมรี แต่ละผลมีเมล็ดมากสุด 4 เมล็ด
ต้นล่ำซำ ถือเป็นอีกหนึ่งต้นไม้มงคลที่คนนิยมปลูก ในทางฮวงจุ้ย ถือว่าการปลูกต้นล่ำซำจะช่วยนำพาความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือธุรกิจต่าง ๆ มาให้แก่ผู้ปลูกและคนในบ้านด้วย
รูปภาพ

ลักษณะของต้นซิลเวอร์โอ๊ค ดอกมีสีส้ม-เหลือง ยาว 3-5 เซนติเมตร ดอกของซิลเวอร์โอ๊ค ไม่สามารถนำมารับประทานได้ ต้นซิลเวอร์โอ๊ค ชอบอยู่ในดินที่ระบายน้ำดี และเติบโตได้ดีเมื่อค่า pH ของดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็น
กลาง เมื่อปลูกจนรากเดินแล้ว ก็ค่อนข้างทนแล้ง
2.ต้นซิลเวอร์โอ๊ค
ชื่อภาษาอังกฤษ: Silver Oak
ชื่อวิทยาศาสตร์: Grevillea robusta
เป็นพืชพื้นเมืองของออสเตรเลียชายฝั่งตะวันออก เติบโตในสภาพแวดล้อมป่าฝนกึ่งเขตร้อนและแห้งแล้ง ชอบแดดจัดเป็นไม้ยื่นต้นที่โตเร็ว มีความสูงได้ถึง 18-35 เมตร และยังทนต่ออากาศหนาวจัด ทนต่ออุณหภูมิได้ถึง −8 ° C

ลักษณะของต้นลำดวน เป็นไม้ดอกชนิดหนึ่งที่จัดเป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มขนาดกลาง โดยมีความสูง 5-20 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นรูปทรงกรวย หนาทึบ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการกระจายพันธุ์ที่พบได้ในประเทศคาบสมุทรอินโดจีน คาบสมุทรมลายู และมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นไทยของภาคเหนือว่า “หอมนวล” และภาคอีสานจะเรียกว่า “ลำดวน” และลำดวนก็ถือเป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดศรีสะเกษ
3.ต้นลำดวน
ชื่อภาษาอังกฤษ: White cheesewood, Devil tree, Lamdman
ชื่อวิทยาศาสตร์: Melodorum fruticosum Lour

ลักษณะของต้นสะเดา เป็นไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 20 – 25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบตลอดปี เปลือกนอกสีน้ำตาลเทาหรือเทาปนดำ ค่อนข้างหนา แตกเป็นร่องตื้นๆ หรือเป็นสะเก็ดยาวๆ เยื้องสลับกันไปตามความยาวของลำต้น เนื้อไม้สีแดงเข้มปนน้ำตาล แกนมีสีน้ำตาลแดง
ต้นสะเดาเป็นพันธุ์ไม้พระราชทาน เพื่อปลูกเป็นมงคลแก่ชาวจังหวัดอุทัยธานี ต้นสะเดานั้นสามารถพบเจอได้ทั่วไป ในป่าแล้ง โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย พม่า ศรีลังกา มาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทยของเราเอง สำหรับในประเทศไทยของเรานั้น มีเขตการกระจายตามธรรมชาติในป่าเบญจพรรณแล้งทั่วประเทศ สะเดาเป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรที่น่าสนใจ
4.ต้นสะเดา
ชื่อภาษาอังกฤษ: Siamese Neem Tree ชื่อวิทยาศาสตร์: Azadirachta indica A. Juss. (Varsiamensis Valeton)
ความหมาย
ต้นสะเดา จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม้เรือนยอดทรงพุ่มหนาทึบตลอดทั้งปี

ลักษณะของต้นประดู่ เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นมีความสูงประมาณ 20-25 เมตร หรืออาจจะสูงกว่านั้น เป็นไม้กลางแจ้งชอบแดดจัด ดอกประดู่เป็นดอกไม้ขนาดเล็กที่รวมกันเป็นช่อ มักออกดอกปลายกิ่ง
ซึ่งจะมีการผลัดใบก่อนออกดอกพร้อมกันทั้งต้น จะออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจะ โดยจะออกบริเวณซอกใบหรือที่ปลายกิ่ง โคนก้านมีใบประดับ 1-2 อัน ลักษณะเป็นรูปรี กลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ติดกันเป็นถ้วยสีเขียว ปลายแยกเป็นแฉก 2 แฉก แบ่งเป็นอันบน 2 กลีบติดกัน และอันล่าง 3 กลีบติดกัน ส่วนกลีบดอกมี 5 กลีบ สีเหลืองแกมแสด ลักษณะของกลีบเป็นรูปผีเสื้อ ดอกมีเกสรเพศผู้ 10 อัน ก้านชูอับเรณูติดกันเป็น 2-3 กลุ่ม ส่วนเกสรเพศเมียมี 1 อัน
ดอกมีกลิ่นหอมแรง จะบานและร่วงพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ดอกมีสีเหลืองทองอร่าม เมื่อบานสะพรั่งพร้อม ๆ กันจะงดงามส่งกลิ่นหอมขจรไกล
5.ต้นประดู่
ชื่อภาษาอังกฤษ: Burma Padauk, Narra, Angsana Norra, Malay Padauk, Burmese Rosewood, Andaman Redwood, Amboyna Wood, Indian rosewood
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterocarpus indicus Willd.
ความหมาย
ต้นสะเดา จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ไม้เรือนยอดทรงพุ่มหนาทึบตลอดทั้งปี


6.ต้นลีลาวดี "พันธุ์ขาวพวง"
ชื่อภาษาอังกฤษ: Frangipani , Pagoda Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์: Plumeria obtusa L.
ลักษณะของต้นลีลาวดี มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา พบในบริเวณพื้นที่ตั้งแต่ประเทศเม็กซิโกตอนใต้ถึงตอนเหนือของทวีปอเมริกา ต้นสูง 8 เมตร ใบมีรูปใบหอกกลับ ปลายใบมน มีสีเขียวเข้ม ยาว 18 เซนติเมตร ดอกมีสีขาว กลางดอกสีเหลือง เส้นผ่าศูนย์กลาง 5-7 เซนติเมตร
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระราชทานนามให้ใหม่ว่า "ลีลาวดี" จึงมีผู้ให้ความสนใจนิยมเข้ามาปลูกประดับตกแต่งสวนกันมากขึ้น

7.ต้นนนทรี
ชื่อภาษาอังกฤษ: Peltophorum pterocarpum
ชื่อวิทยาศาสตร์: Peltophorum pterocarpum
ลักษณะของต้นนนทรี เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่ว ทรงพุ่มสูงได้ถึง 25 เมตร กึ่งผลัดใบ เรือนยอดรูปร่ม แผ่กว้าง ใบเป็นใบประกอบขนนกสองชั้นรูปไข่ ออกดอกเป็นช่อตั้งขนาดใหญ่ที่ปลายกิ่ง สีเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ออกดอกในฤดูแล้งช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน
ต้นนนทรีเป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ เรือนยอดทรงกลมหรือรูปไข่ เปลือกต้น สีเทาอ่อนค่อนข้างเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตามกิ่งก้านอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง ใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงเวียนสลับ ปลายใบมน เว้าเข้าเล็กน้อย โคนใบเบี้ยว ดอกสีเหลือง มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง


8.ต้นกระทิง
ชื่อภาษาอังกฤษ: Alexandrian Laurel
ชื่อวิทยาศาสตร์: Calophyllum inophyllum
ลักษณะของต้นกระทิง จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ แตกพุ่ม ไม่เป็นระเบียบ สูง 8-20 เมตร ลำต้นสั้น บิดแตกเป็นกิ่งใหญ่ๆ จำนวนมากทั้งในแนวตั้งและแนวนอน หรือห้อยลงเปลือกเรียบสีน้ำตาลปนเทา หรือค่อนข้างดำ เมื่อลำต้นแก่จะแตกเป็นร่อง ภายในน้ำยางสีเหลืองใส จำนวนมากเปลือกในสีชมพู แก่นไม้สีน้ำตาลอมแดง ส่วนบริเวณตายอดเป็นรูปกรวยคว่ำ มีขนสีน้ำตาลแดงประปราย

9.ต้นจามจุรี/ต้นฉำฉา/สำสา หรือ
ต้นก้ามปู
ชื่อภาษาอังกฤษ: Rain tree
ชื่อวิทยาศาสตร์: Albzia saman (Jacq.) Merr.
ลักษณะของต้นจามจุรี ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-20 เมตร ผลัดใบ เรือนยอดแผ่เป็นพุ่มกว้างคล้ายร่ม โคนต้นเป็นพูพอนต่ำ เปลือกสีน้ำตาลปนเทา แตกตามยาวขรุขระไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ใบรูปไข่ รูปรีหรือคล้ายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน กว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5-5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบบิดเบี้ยว ด้านล่างมีขน ดอกสีเหลืองปนเขียว ดอกออกเป็นช่อแบบช่อกระจุก ผลเป็นฝักแห้ง รูปขอบขนาน สีน้ำตาลดำ กว้าง 1.5-2.4 ซม. ยาว 15-20 ซม. เมล็ดแบน สีน้ำตาลเข้มปนดำเป็นมัน กว้าง 6 มม. ยาว 10 มม.

10.ต้นบุญนาค
ชื่อภาษาอังกฤษ:Iron wood, Indian rose chestnut
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mesua ferrea L.
ลักษณะของต้นบุญนาคต้นบุนนาคเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ไม่ผลัดใบ ชอบแสงแดดจัดๆ ชอบดินชุ่มชื้น แต่ไม่ชอบน้ำท่วมขัง มีความสูง 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นทรงพุ่มทึบ รูปสามเหลี่ยมคล้ายเจดีย์ กิ่งก้านเรียวห้อยลงเป็นไม้เนื้อแข็ง เปลือกต้นสีน้ำตาล มีรอยแตก เปลือกชั้นในมีน้ำยางสีเหลืองใส เนื้อไม้สีแดงคล้ำเป็นมัน ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเข้ม ใต้ใบเป็นสีขาวนวล รูปใบเรียวยาว ใบอ่อนมีสีแดงอมชมพู มีดอกออกตามซอกใบ กลีบดอกสีขาวนวล

11.ต้นคูน, ลมแล้ง, ราชพฤกษ์
ชื่อภาษาอังกฤษ: Golden shower/Golden shower/Indian laburnum/Pudding-pipe tree
ชื่อวิทยาศาสตร์: Cassia fistula
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์ เป็นไม้ต้น สูงประมาณ 5 - 15 เมตร เปลือกต้นเรียบ เกลี้ยง สีเทาอ่อน หรือสีเทาอมน้ำตาล สีเทาอมขาว หรือสีนวล ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ ลักษณะใบย่อยรูปไข่ ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ โคนใบมน แผ่นใบเรียบสีเขียวเป็นมัน มีใบย่อยประมาณ 4 - 12 คู่

12.ต้นปีป
ชื่อภาษาอังกฤษ: Cork Tree, Indian Cork
ชื่อวิทยาศาสตร์: Millingtonia hortensis Linn.
ลักษณะของต้นปีป เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 5-10 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทาเข้มแตกเป็นร่องลึก มีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อ เจริญเป็นต้นใหม่ได้ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการนำเมล็ดมาเพาะ หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากรากรอบ ๆ ของต้นแม่ นำมาตัดเป็นท่อนสั้น ๆ แล้วนำมาปักชำในกระบะกรวยที่ผสมด้วยขี้เถ้าแกลบก็ได้ ปีบเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของพม่าและไทยที่ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้งทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

13.ต้นหางนกยูง
ชื่อภาษาอังกฤษ: Flower fence, Peacock's crest, Pride of Barbados
ชื่อวิทยาศาสตร์: Caesalpinia pulcherrima (L.)Sw
ลักษณะของต้นหางนกยูง ไม้พุ่มเตี้ยชนิดหนึ่ง สูง 3-5 เมตร ทรงพุ่มกลม ต้นเกลี้ยงหรือมีหนาม ใบ ประกอบแบบขนนกสองชั้น ออกสลับ ช่อใบย่อยมีใบย่อย 7-11 คู่ รูปขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ ปลายมนหรือเว้า โคนเบี้ยว ดอก มีหลายสีตามพันธุ์ ได้แก่ เหลือง แดง ส้ม ชมพูแก่ แดงประขาว ดอกเป็นช่อ ตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน เกสรตัวผู้ 10 อัน ออกดอกตลอดปี ผล เป็นฝักแบน เมื่อแก่แตกได้ ออกฝักตลอดปี เมล็ด 8-10 เมล็ด
เมล็ดมีรูปร่างกลม
มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ หมู่เกาะเวสต์อินดีส ขึ้นได้ทั่วไป สำหรับประเทศไทยพบทุกภาค ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง เพาะเมล็ด
ประโยชน์ : นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ทางด้านสมุนไพร รากของต้นดอกสีแดง ปรุงเป็นยารับประทานขับประจำเดือน เมล็ดในฝักรับประทานได้โดยแกะเปลือกกับเมล็ดซึ่งมีรสฝาดทิ้งไป เนื้อในมีรสหวานมันเล็กน้อย


14.ต้นตะแบก
ชื่อภาษาอังกฤษ: Bungor
ชื่อวิทยาศาสตร์: Lagerstroemia floribunda Jack var.floribunda.
ลักษณะของต้นตะแบก ไม้ต้น ผลัดใบ สูง 15 - 30 เมตร เปลือกเรียบ เป็นมัน สีเทาอมขาว และมีรอยแผล เป็นหลุมตื้น ๆ ตลอดลำต้น ใบเดี่ยว ออกตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อยใบอ่อนสีแดงมีขนสั้นอ่อนนุ่มปกคลุม ใบแก่ขนจะหลุดหายไป แผ่นใบรูปขอบขนานแกมรูปหอก
กว้าง 5 - 7 เซนติเมตร ยาว 12 - 20 เซนติเมตร ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนสอบ

15.ต้นจันผา
ชื่อภาษาอังกฤษ: Dracaena cocbinchinensis (Lour.) S.C. Chen
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dracaena loureiri Gagnep
ลักษณะของต้นจันผา จันผาจัดเป็นไม้พุ่มขนาดกลางหรือไม้ต้นขนาดเล็กที่ไม่ผลัดใบ โดยมีความสูงประมาณ 1.5-4 เมตร แต่หากโตเต็มที่อาจจะมีความสูงถึง 17 เมตรเลยทีเดียว เมื่อต้นจันผาเจริญเติบโตขึ้นจะแผ่กว้าง ลำต้นตั้งตรง เปลือกมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอมสีเทาเล็กน้อย ไม่มีกิ่งก้าน ส่วนใบจะออกที่บริเวณปลายของลำต้น ลำต้นด้านในเป็นสีขาว เมื่อต้นมีอายุมากขึ้น แก่นจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง ทำให้หลายๆ คนเรียกว่า “ต้นจันทน์แดง” จันผาเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทยของเรา สามารถขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะกล้าจากเมล็ดหรือการแยกกอ ในขณะเดียวกันจันผาเป็นต้นไม้ที่ชอบดินหินหรือดินปนทรายที่สามารถระบายน้ำหรือระบายอากาศได้ดี เนื่องจากต้นจันผาเป็นต้นที่ชอบแสงแดด จึงมักพบอยู่บนภูเขาหินสูงๆ ที่มีแสงแดดจัด

16.ต้นมะม่วง
ชื่อภาษาอังกฤษ: Mango
ชื่อวิทยาศาสตร์: Mangifera indica L.
ลักษณะของต้นมะม่วง มะม่วงเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10–30 เมตร ใบเดี่ยวสีเขียว ขอบใบเรียบ ฐานใบมน ปลายใบแหลม ดอก เป็นช่อ กลีบดอกมี 5 กลีบ เกสรสีแดงเรื่อๆ ดอกออกช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงฤดูร้อนจะติดผล ผล ยาวประมาณ 5–20 ซม. กว้าง 4–8 ซม. ลูกดิบสีเขียว เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเหลืองส้ม มีเมล็ดภายใน 1 เมล็ด

17.ต้นลำพู
ชื่อภาษาอังกฤษ: Cork Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์:Sonneratia caseolaris (L.)
ลักษณะของต้นลำพู เรือนยอดเป็นทรงพุ่ม ลำต้นค่อนข้างกลมมีกิ่งเกิดในแนวตั้ง เจริญทางด้านข้างมากกว่าทางยอด เมื่อลำต้นแตกหักจะสร้างกิ่งใหม่ขึ้นได้เนื่องจากมีตาสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก สีเขียว ขอบใบเรียบ แตกใบตรงกันข้ามกันเป็นคู่ มีก้านใบสีชมพูมองเห็นแต่ไกล ดอกเป็นดอกเดี่ยวออกบริเวณปลายยอด ลักษณะผลแก่มีเปลือกหนาสีเขียวอมเหลือง เนื้ออ่อนนุ่ม ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ประมาณ 1000 ถึง 2500 เมล็ด ผลลำพูแก่มีกลิ่นแรง จะร่วงหล่นระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน เป็นพืชที่รับประทานได้ ดอกนำไป แกงส้ม หรือใช้เป็นผักสด รับประทานกับ ขนมจีน

18.ต้นเล็บครุฑลังกา
ชื่อภาษาอังกฤษ: Polyscias
ชื่อวิทยาศาสตร์: Polyscias fruticosa (L.) Harms
ลักษณะของต้นเล็บครุฑลังกา มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนและอบอุ่น แถบเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ อเมริกา และยุโรปบางประเทศ ลักษณะทั่วไปเป็นพืชยืนต้น เล็บครุฑเป็นไม้ประดับประเภทหนึ่งที่พบเห็นกันทั่วไปมีปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว ทั้งความนิยมในการปลูกเป็นไม้กระถางสำหรับตกแต่งอาคารสถานที่ ใช้เป็นไม้ประดับจัดสวน และปลูกเป็นกลุ่มหรือปลูกเป็นแนวรั้วได้สวยงาม ปลูกเลี้ยงง่ายและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้เล็บครุฑบางชนิดยังนำมาใช้ประกอบอาหารหรือเป็นยาสมุนไพรได้อีกด้วย

19.ต้นแก้วพวงดวงใจ
ชื่อภาษาอังกฤษ: Orange jasmine (murraya paniculata)
ชื่อวิทยาศาสตร์: Murraya.
ลักษณะของต้นแก้วพวงดวงใจ ต้นแก้วพวงดวงใจ ไม้ยืนต้นขนาดกลางทรงพุ่มเหมาะที่จะปลูกในบริเวณสวนที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ออกดอกสีขาวรวมกันเป็นช่อสวยให้เห็นตลอดทั้งปี กลิ่นหอมตลอดทั้งกลางวันกลางคืน คนไทยนิยมปลูกเป็นไม้มงคลประจำบ้านและนำดอกมาถวายพระ
20.ต้นใบนาค
ชื่อภาษาอังกฤษ: Caricature Plan
ชื่อวิทยาศาสตร์: Graptophyllum pictum (L.) Griff.
ลักษณะของต้นใบนาค ใบนาคเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่ม ต้น : มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาออกจากโคนต้น และเจริญพุ่งตรงขึ้นไปข้างบน ลำต้นกลมเล็กสีขาวปนเทา ใบ : เป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ๆ ตรงกันข้ามลักษณะใบคล้าย
รูปหอก ปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบพื้น
21.ต้นมหัศจรรย์
ชื่อภาษาอังกฤษ: Miracle fruit
ชื่อวิทยาศาสตร์: Synsepalum dulcificum
ลักษณะของต้นมหัศจรรย์ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ดอกออกที่กิ่งของลำต้นบริเวรใต้ใบ เป็นดอกสีน้ำตาลขนาดเล็ก เมื่อดอกบานจะมีกลิ่นหอมเย็นๆ คล้ายดอกราตรี ผลมีลักษณะกลมรี ขนาดเล็ก คล้ายกับผลของมะม่วงหาวมะนาวโห่ ผิวผลเรียบ ผลอ่อนมีสีเขียวและกลายเป็นสีแดงสดเมื่อสุก เนื้อภายในมีสีขาว ให้รสหวานจัด แต่ก็ปราศจากน้ำตาลและแคลอรี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี แม้จะทานผลไม้รสเปรี้ยวตามไปก็จะทำให้มีรสหวาน และสามารถลดความขมได้เล็กน้อย
22. ต้นส้านชวาดอกขาว
ชื่อภาษาอังกฤษ: The Dillenia Aurea Sm.
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dillenia philippinensis
ลักษณะของต้นส้านชวาดอกขาว ขนาดเล็กถึงขนาดกลางสูงได้ถึง 8 เมตร ไม่ผลัดใบ ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปรีกว้าง ขนาด 12-15 ซม. ขอบใบจักเป็นซี่เลื่อย ผิวใบเขียวมัน เส้นใบเป็นร่องลึกและเรียงขนานกัน ดอก สีขาว ออกเดี่ยว มีขนาดใหญ่ ขนาดผ่านศูนย์กลาง 8-12 ซม.มีกลีบดอกรูปขอบขนาน 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้สีแดงเรียงเป็นวงที่กลางดอกจำนวนมาก
23. ต้นถั่วบราซิล, ถั่วปิ่นโต,
ถั่วเปรู, ถั่วลิสงเถา
ชื่อภาษาอังกฤษ: Amarillo Peanut, Pinto Peanut, Yellow Peanut Plant.
ชื่อวิทยาศาสตร์: Arachis pintoi Krapov. & W.C.Gregory
ลักษณะของต้นถั่วบราซิล ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นทอดเลื้อยคลุมดิน รากออกตามข้อ ใบประกอบแบบขนนกออกตรงข้าม มีใบย่อย 4 ใบ รูปไข่
ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ ก้านชูดอกยาว กลีบเลี้ยงขนาดเล็กสีเขียวอ่อน ดอกรูปถั่ว ดอกสีเหลืองสด สองกลีบเชื่อมติดกันเป็นกลีบขนาดใหญ่อยู่ด้านบน กลีบคู่ข้างคล้ายปีก 2 กลีบ และกลีบกลาง 1 กลีบ ขนานเล็ก หุ้มกลุ่มเกสรไว้ภายใน



